-

-

วันอังคาร

ปอมเมอเรเนียน


lovelyfriends2u.เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง มีเรื่องของน้องหมาตัวเล็กๆๆ น่ารัก พันธุ์ "ปอมเมอเรเนียน" มาให้เพื่อนๆรู้จัก ความฉลาดความสามารถของสุนัขพันธุ์นี้ รวมถึงมาตรฐานสายพันธุ์ด้วยค่ะ



เรื่องของน้องหมา"ปอมเมอเรเนียน"


เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มีขนนุ่มปุกปุย มีหัวเป็นรูปลิ่ม หูตั้งชี้ขึ้น บรรพบุรุษปอมเมอรเนียน ย้อนกลับไปถึงยุคก่อนคริสตกาล พบภาพวาดในแผ่นหินและรูปหล่อสัมฤทธิ์ตามโลงศพที่พบในอียิปต์ พบโครงกระดูกสุนัขพันธุ์เล็กคล้ายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน ในอุโมงค์ที่บรรจุศพสมัยโบราณของชาวอียิปต์ เชื่อกันว่า ปอมเมอเรเนียนได้รับการพัฒนาให้เป็นปอมเมอเรีเนียนในปัจจุบัน

ในครั้งแรกที่เมืองปอมเมอเรเนีย ประเทศเยอรมัน ตั้งอยู่ในยุโรปเหนือแถบทะเลบอลติก ดินแดนกว้างใหญ่จากตะวันตกของเกาะรูเกนถึงแม่น้ำวิทูลา ที่แห่งนี้มีการเลี้ยงสุนัขอย่างแพร่หลาย ทั้งเพื่อให้เป็นสัตว์และเพื่อให้เป็นสุนัขอารักขา

ปอมเมอเรเนียนมีต้นกำเนิดจากพันธุ์สปิทซ์ในสมัยโบราณ
บางคนเชื่อว่าสุนัขปอมเมอเรเนียนพัฒนาจากสุนัขพันธุ์ซามอยด์ ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่ตอนเหนือของประเทศรัสเซียแถบไซบีเรีย
  • บางคนเชื่อว่าพัฒนามาจากสุนัขป่า ซึ่งอาศัยอยู่ตามถ้ำในประเทศเยอรมัน
  • และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขเลี้ยงแกะในทวีปยุโรปตอนกลางและตอนล่าง นำมาพัฒนาในยุโรปเพื่อช่วยในการเลี้ยงแกะ ซึ่งบรรพบุรุษของปอมเมอเรเนียน น่าจะมีน้ำหนักมากถึง 30 ปอนด์

บางคนเชื่อว่าต้นกำเนิดมาจากประเทศกรีซ โดยอ้างหลักฐานจากภาพวาดสมัยโบราณหลายภาพที่มีอายุ 400 ปี ก่อนคริสตกาล หรือประมาณ 2500 ปีมาแล้ว มีภาพของสุนัขขนาดเล็กที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนสุนัขปอมเมอเรเนียน ในปัจจุบัน

Stop ที่เด่่นชัดมาก ช่วงปากแหลม หูสั้น ลักษณะการเดินและการแสดงออกเหมือนกับที่พบได้ในปัจจุบันทุกประการ ยกเว้นแต่ตำแหน่งของหางที่อยู่ต่ำเกินไปเท่านั้น แสดงว่าสุนัขพันธุ์นี้มีขนาดเล็กมากตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว ไม่ใช่เพิ่งพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเมื่อ 40-50 ปีที่ผ่านมา

ตามที่มีคนในประเทศอังกฤษอ้างเสมอ ประมาณปี 1800 สมเด็จพระราชินีวิคตอเรีย ทรงทีความชื่นชอบในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนและส่งสุนัขของพระองค์ลงประกวด ทำให้เกิดความนิยมปอมเมอเรเนียนอย่างแพร่หลายในประเทศอังกฤษ และเพราะความที่พระองค์โปรดปรานสุนัขที่มีขนาดเล็ก ผู้เพาะพันธุ์หลายคนเริ่มที่จะคัดสุนัขที่มีขนาดเล็ก ปัจจุบันปอมเมอเรเนียน ที่เราเห็นอยู่มีขนาดที่เล็กลงจากเดิมที่ต้นตำรับ 4-5 ปอนด์

ความฉลาดและความสามารถของปอมเมอเรเนียน ทำให้สุนัขพันธุ์นี้เป็นพระเอกในคณะละครสัตว์อย่างต่อเนื่อง ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในเยอรมัน นิยมเลี้ยงกันเป็นฝูง บางแห่งทำเป็นสุนัขลากเลื่อนก็มี ปอมเมอเรเนียน เข้าสู่อังกฤษช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 18 และได้รับความนิยมอย่างสูง

เช่นมีการตั้งชมรม คือ English Pomeranian Club ในปี 1891 ภายหลังสมเด็จพระราชินีวิคตอเรียทรงออกงานพร้อมสุนัขพันธุ์นี้บ่อยครั้ง ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว

ส่วนในประเทศอเมริกามีการปรากฎตัวครั้งแรกของปอมเมอเรเนียนที่งานประกวดสุนัขแห่งหนึ่งประมาณปี 1892 ไม่กี่ปีหลังจากนั้นมีการสั่งนำเข้าอีกเกือบ 200 ตัว

มาตรฐานทั่วไป
รูปร่างจะเหมือนสุนัขจิ้งจอก มีขนาดกลาง ตาเป็นวงรีสีดำ หูเล็กตั้งตรง ลำตัวสั้นขนาดกะทัดรัด หางเป็นพวกแผ่อยู่บนส่วนหลัง


มาตรฐานสายพันธุ์


ลักษณะทั่วไป :
เป็นสุนัขขนาดเล็ก ลำตัวสั้นกะทัดรัด น้ำหนักประมาณ 4-6 ปอนด์ มีการแสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด ร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ ซื่อสัตว์ รักเจ้าของ ขี้ประจบ แต่เป็นสุน้ัขค่อนข้างตกใจง่าย เห่ามาก ยิ่งตัวเล็กยิ่งเห่าเก่ง

สัดส่วน :

น้ำหนักของปอมเมอเรเนียน โดยเฉลี่ยแล้วจะหนัก 3-7 ปอนด์ (ประมาณ 1.25-3 กิฺโลกรัม) แต่ขนาดที่ดีสำหรับการประกวดนั้นควรหนักประมาณ 4 -6 ปอนด์ ( 1.7 -2.2 กิโลกรัม) รูปร่างของสุนัขสำคัญกว่าขนาด ช่วงตั้งแต่หน้าอกจนถึงสะโพกจะสั้นกว่าหรือเท่ากับส่วนสูงตั้งแต่ช่วงไหล่จนถึงพื้น กระดูกมีขนาดปานกลาง

ศรีษะ :

ขนาดของหัวต้องได้สัดส่วนกับลำตัว ช่วงปาก (Muzzle) สั้นตรง หน้าดูคล้ายกับสุนัขจิ้งจอก (Foxy Expression) หัวกระโหลกปิด ช่วงบนของหัวกระโหลกจะกลมเล็กน้อยแต่ไม่โหนกนูน ถ้ามองจากด้านหน้าและ้ด้านข้างแล้วจะต้องเห็นหูที่มีขนาดเล็กอยู่ในตำแหน่งที่สูง (High Earset) และตั้งตรง

รูปร่างปาก :
จะมีลักษณะคล้ายลิ่ม (Wedge Shape) เส้นที่ลากจากจมูกไปถึงจุดหัก (Stop) จะต้องอยู่ตรงกลางระหว่างระหว่างตาทั้งสองข้างและหูทั้งสองข้าง

ตา :

มีสำดำสนิท สดใส ขนาดปานกลาง คล้ายเมล็ดอัลมอนด์ (Almond Shape) สีของจมูกและขอบตาต้องดำสนิ ยกเว้นสีน้ำตาล Beaver และ ฺBlue ฟันต้องกัดสบกันพอดี (Scissorsbite)

นิสัยอารมณ์ :

เป็นสุนัขที่เปิดเผย แสดงออกถึงความเฉลียวฉลาด
คอ เส้นหลังและลำตัว : คอค่อนข้างสั้น ตั้งอยู่บนไหล่ ทำให้ช่วงคอตั้งสูง แลดูสง่างาม ช่วงหลังสั้นมีระดับของเส้นหลัง หางมีตำแหน่งที่สูง (High Tailset) วางราบอยู่บนหลัง

ลำตัวส่วนหน้า :

ไหล่จะต้องมีการเอียงลาดลงเพียงพอ เพื่อให้สามารถชูคอและหัวได้สูงและสง่างาม ความยาวของช่วงไหล่และขาตอนบนต้องเท่ากัน ขาหน้าต้องตรงและขนานกัน ความยาวตั้งแต่ไหล่จนถึงข้อศอกต้องมีความยาวเท่ากับข้อศอกถึงพื้น ขาต้องตรงและแข็งแรง ไม่เอียงเข้าหรือเอียงออก

ลำตัวส่วนหลัง :

ได้สัดส่วนกับลำตัวส่วนหน้า ตำแหน่งของหางจะต้องอยู่เหนือสะโพกค่อนมาทางด้านหน้าต้นขา ต้องมีกล้ามเนื้อแข็งแรงปานกลาง และมีส่วนหน้าของขาหลัง (Stifles) มีมุม (Angulation) ที่โค้งงอพอสมควรรับกับส่วนน่อง (Hock) ต้องตั้งฉากกับพื้น ถ้ามองจากด้านหลังขาทั้ง 2 ข้าง ต้องตรงและขนานกัน เท้ามีลักษณะโค้งมนกระชับ ไม่เอียง สุนัขต้องยืนอยู่ปลายเท้า (Toes) นิ้วติ่ง (Dewclaws) ถ้ามีความตัดออก

การเคลื่อนไหว :

การเดินหรือการเคลื่อนไหวต้องเป็นไปอย่างอิสระราบเรียบ นุ่มนวล แลดูแข็งแรง เวลาเดินขาหน้าต้องเหยียดตรงไม่งอพับขึ้น ข้อศอกไม่กางออก ส่วนขาหลังต้องไม่ถ่างออก ขาหลังจะเคลื่อนไปข้างหน้าในจังหวะเดียวกันกับขาหน้าที่เคลื่อนที่ไป

ขน :
จะมีขน 2 ชั้น คือ
  • ขนชั้นใน (Undercoat) ต้องนุ่มและแน่น
  • ขนชั้นนอก (Outtercoat) ต้องยาวตรงเป็นประกายและหยาบ
ขนชั้นในที่หนาแน่นจะช่วยพยุงขนชั้นนอกให้ฟูไม่ลู่ เยียดตรง ขนจะต้องหนาแน่นตั้งแต่ช่วงคอ หน้าอก ช่วงไหล่ด้านหน้า ขนช่วงหัวและขาจะแน่นแต่สั้นกว่าขนช่วงลำตัว ขนหางยาง หยาบและเหยียดตรง การตัดแต่งเล็มขนให้ดูสวยงามและดูเรียบร้อยไม่ถือเป็นข้อผิด

สี :
สีที่ได้รับการยอมรับและรับรอง ควรได้รับการพิจารณาการตัดสินอย่างเท่าเทียมกัน สีที่ได้รับการยอมรับ
  • สีใดๆ ก็ได้ที่ขึ้นเป็นสีเดียวกันทั้งตัว หรืออาจจะมีสีที่อ่อนหรือแก่กว่าแซมอยู่ด้วย (Selt-Color)
  • สีแซมกัน 2 สี (Parti-Color) หมายถึง ที่มีสีขาวและมีสีอื่นแซมเป็นพื้นๆ กระจายเท่าๆกันทั่วตัว และควรมีแถบสีขาวบนหัวด้วย
  • สีดำและน้ำตาล (Black and Tan) หมายถึง สีดำที่มีสีน้ำตาลอยู่เหนือตาทั้ง 2 ข้าง และปาก ลำคอ หน้าอก ใต้หาง ขาและเท้าทั้ง 4 ข้าง สีน้ำตาลนี้ยิ่งเย้มยิ่งดี
  • BRINDLE ได้แก่ สีที่มีพื้น คือ สีทอง แดงหรือส้ม และสีดำแซมอยู่ทั่วทั้งตัว

จุดบกพร่อง :

  • กะโหลกกลม โหนกนูน ฟันล่างยื่น (Unudershotmouth) หรือฟันบนยื่นจนเกินไป (Overshotmouth)
  • ข้อเท้าราบกับพื้นมากเกินไป
  • ขาหลังที่หัวเข่าชิดกัน ปลายเท้าชี้ออก (Cowhocks) หรือขาหลังบกพร่อง
  • ขนที่นิ่ม เหยียดตรงและแยกออกจนเห็นผิวหนังข้างใน (Open Coat)


lovelyfriends2u.เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
ได้แนะนำเรื่องของน้องหมา "ปอมเมอเรเนียน"แล้วเป็นไงบ้างค่ะ เพื่อนๆ ได้รูจักประวัติเรื่องของน้องหมาตัวเล็กตัวนี้ำแล้ว ไม่ธรรมดาเชียวนะค่ะ และก็มาตรฐานสายพันธุ์ ถ้าเพื่อนๆ จะเลือกซื้อมาก็ดูให้ตรงตามมาตรฐานนะค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

-

free counters