-

-

วันพฤหัสบดี

สุนัขพันธุ์ปักกิ่งหน้ายู่


lovelyfriends2u.เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง ขอแนะนำ เรื่องของน้องหมา หน้ายู่ที่น่ารัก “สุนัขพันธุ์ปักกิ่งหน้ายู่” ตัวเล็ก น่ารัก ขนปุย เพื่อนๆ อยากเลี้ยง ก็ต้องมาดูว่ามาตรฐานสายพันธุ์และก็ประวัติความเป็นมา(ยิ่งกว่านิยายอีกนะค่ะ) ของน้องหมานั้นเป็นเช่นไร



ประวัติความเป็นมา :


มีหลักฐานว่าคนจีนเลี้ยงสุนัขขนาดเล็กมาตั้งแต่ 1500 ปีก่อนแล้ว ในปีค.ศ. 565 พระเจ้าจักรพรรดิประเทศจีนทรงพระราชทานนามสุนัขของพระองค์ว่า “ชิ ซู” หรือ “เสือแดง” เป็นสุนัขพันธุ์เปอร์เซียน เมื่อพระเจ้าจักรพรรดิทรงม้า “เสือแดง” จะขึ้นไปนั่งบนตระกร้าที่ผูกไว้ด้านหน้าอานม้า ในปี ค.ศ. 620 มีบันทึกว่าสุนัขตัวผู้ตัวเมียคู่หนึ่ง สูงประมาณ 6 นิ้ว ถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายจักรพรรดิเกาสู บันทึกอ้างว่าสุนัขคู่นี้มีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถนำทางม้าในเวลากลางคืน

สืบเนื่องมาจนกระทั่งกลางคริสต์ศตวรรรษที่ 14 เมื่อราชวงศ์ของกุบไลข่านถูกพิชิตลง บันทึกหลักฐานต่างๆก็หมดสิ้นไปด้วย เป็นเวลาสืบเนื่อง 33 ปี ธรรมเนียมการเลี้ยงสุนัขเล็กของจีนมาพุ่งขึ้นสู่จุดสูงสุดระหว่างปี ค.ศ 1820 ถึง 1850 ในช่วงเวลานี้ มีสุนัขอยู่หลายพันธุ์ในนครปักกิ่ง พวกขันที 4,000 คน ยังมีหน้าที่เฉพาะในการผลิตเพาะสุนัขที่เราเรียกว่า “สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง” ด้วย พระนางซูสีไทเฮาทรงเป็นผู้ทำนุบำรุงกิจกรรมนี้ พระนางยังกระตุ้นให้สร้างรูปแบบพันธุ์คล้ายกับ “สุนัขพันธุ์สิงห์โต” แบบเก่า

มีการจัดร่างกฎเกณฑ์แบบเฉพาะของสุันัขแบบย่อๆ มีดังนี้"จงใ้ห้มันสวมคลุมขนแห่งความสง่ารอบๆ คอ ขาคู่หน้าของมันจะต้องโค้ง เพื่อไม่ให้มันเดินออกไปไกลๆ หรือเดินออกนอกเขตพระราชฐาน จงสอนมันให้ละเว้นในการเที่ยวเตร็ดเตร่ไปมา ให้มันมีขนเหมือนสิงห์โต เหมาะที่จะอุ้มไว้ในชายแขนเสื้อคลุม......." ในสมัยก่อนผู้ใดขโมยสุนัขนี้จะได้รับโทษถึงประหารชีวิต

พระราชวังแห่งปักกิ่งถูกชาวต่างชาติบุกเขายึดครองเมื่อปี ค.ศ.1860 ก่อนการสูญเสียมีคำสั่งจากพระราชวงศ์ว่าให้สุนัขตายไปเสียดีกว่าจะให้ตกอยู่ในมือคนต่างชาติ เจ้าฟ้าหญิงพระองค์หนึ่งไม่ยอดเสด็จหนี ทรงปลงประชนม์ชีพพระองค์เอง แต่ไม่ได้ทำลายสุนัขที่เลี้ยงไว้ สุนัขพันธุ์ปักกิ่งสี่ตัวถูกทหารยึดไว้ ตัวหนึ่งถูกส่งขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระราชราชนีวิคตอเรีย อีก 3 ตัวที่เหลืออยู่มอบให้ LORD HAY และได้แพร่พันธุ์กระจายไปทั่วโลก

เรื่องราวเหล่านี้อ่านแล้วเหมือนนิยาย แต่ก็เป็นเรื่องจริง เรื่องคล้ายนิยายและความเกี่ยวพันกับราชวงศ์ซึ่งเป็นของสูงนี้ ทำให้พันธุ์ปักกิ่งได้รับความนิยมอย่างใหญ่หลวงตั้งแต่สมัยคริสต์ศตวรรษที่ 8 มีชื่อเรียกอีกหลายชื่อเช่น LION DOG SUN DOG หรือ STEEVE DOG

ปักกิ่งเป็นสุนัขขนาดเล็กที่น่าสนใจที่สุดและมีบุคลิกลักษณะที่ผิดธรรมดาที่สุด มันมีลักษณะผสมกันประหลาดๆ ของความขบขันและความทรนง เป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ด้วยทั้งยังมีความหัวแข้งดื้อรั้นอย่างน่าทึ่ง พันธุ์ปักกิ่งไม่เคยหลุดออกจากยี่สิบอันดับแรกสุนัขยอดนิยมของอังกฤษ (Top Twenty) และยังคงติดอันดับสูงมาจนทุกวันนี้ สำหรับในสหรัฐอเมริกานั้น ทั้งๆ ที่พันธุ์ปักกิ่งเพิ่งเข้าไปเมื่อต้นคริสต์ตวรรษที่ 20 แต่ก็เป็นสุนัขระดับยอดนิยมแล้ว


มาตรฐานสายพันธุ์


ศรีษะ : มีขนาดใหญ่ แข็งแรง กว้างและแบน ในช่วงระหว่างหูทั้งสองข้างจะต้องไม่มีโค้งนูนเป็นโดม มีระยะระหว่างตาทั้งสองข้างกว้าง
จมูก : จมูกสีดำ กว้าง สั้นและแบน
ตา : ตาโต สีเข้ม กลมนูนเด่นประกาย
สต๊อป : หรือรอยต่อระหว่างสันจมูกกับหน้าผากจะต้องลึกมาก
หู : มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ ไม่อยู่สูงเกินไป ยาวพอสมควร ปลายหูอยู่ระดับต่ำกว่าช่วงปากเล็กน้อย ห้อยตกลงแนบแก้ม ปกคลุมด้วยขนที่ยาวมาก
ช่วงปาก : สั้นมาก กว้าง มีรอยย่น ไม่ยื่นแหลม แข็งแรง ขากรรไรล่างกว้าง ฟันไม่ยื่นให้เห็นนอกริมฝีปาก
รูปร่างของลำตัว : ลำตัวช่วงหน้าใหญ่หนักแข็งแรง หน้าอกกว้าง ซี่โครงโค้งกว้างค่อยๆ เรียวลงทางด้านหลัง รูปร่างเหมือนสิงโต หลังเรียบขนานกับพื้น ลำตัวสั้นยกเว้นตัวเมียที่อาจยาวกว่าตัวผู้ได้เล็กน้อย
ขา : ขาสั้น ขาหน้ามีกระดูกช่วงบนโค้ง ไหล่แข็งแรง ขาหลังมีกระดูกที่เล็กบางกว่าเล็กน้อย แต่แข็งแรงและได้สัดส่วน
เท้า : เท้าแบน ปลายเท้าเฉียงออก ไม่มีลักษณะกลม จะต้องยืนได้มั่นคงบนเท้า ไม่ใช่ยืนบนข้อเท้า
ลักษณะท่าทาง : ไม่กล้ัวใคร เป็นอิสระ แข็งแรง ลักษณะการเดินจะมีการโยกตัวซ้ายขวาอย่างนุ่มนวล (ROLL)
ขน : ขนยาว มีขนชั้นในที่หนาแน่น ขนมีลักษณะเป็นเส้นตรง เรียบไม่หยิกเป็นคลื่น ค่อนข้างหยาบแต่นุ่ม ขนบริเวณสะโพก ขา หาง และหูจะต้องยาวและฟูมาก
ขนแผงคอ : ยาวและฟูมาก กว้างเกินหัวไหล่ ปกคลุมตลอดรอบลำคอ
สี : มีได้ทุกสี คือ แดง ฟอน (สีโทนน้ำตาล) ดำ ดำกับแทน (BLACK AND TAN) เซเบิล (ขนสีดำที่ปกคลุมสีของลำตัวที่อ่อนกว่า) บรินเดิ้ล (ขนสีเข้มและสีอ่อนขึ้นแซมกันทั่วตัว) ขาวและขน 2 สี (PATICOLOR) คือจะต้องมีสี 2 สีที่แยกจากกันอย่างชัดเจนกระจายอยู่ทั่วตัว ไม่มีสีใดสีหนึ่ง เป็นบริเวณกว้างอยู่สีเดียว จะต้องมีสีขาวปรากฎบริเวณหลัง สำหรับสุนัขที่มีสีเดียว แต่มีเท้ากับหน้าอกยาว ไม่นับเป็นประเภทขนสองสี
หาง : ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่สูง วางพาดไปบนหลัง ปลายหางตกลงด้านใดด้านหนึ่ง มีขนยาวตรงแน่นและฟูมาก
ขนาด : เนื่องจากปักกิ่งเป็นสุนัขตุ๊กตา (TOY) จึงนิยมให้มีขนาดเล็ก โดยจะมีลักษณะที่ถูกต้อง น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 14 ปอนด์
การแสดงออก : จะต้องแสดงออกถึงต้นกำเนิดเดิมในประเทศจีน คือมีความกล้าหาญ เป็นตัวของตัวเอง เหมือนสิงโตที่มีขนาดเล็ก มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่กลัวใคร พร้อมที่จะต่อสู้ป้องกันตัว แต่ไม่ดุร้าย ไม่ควรมีลักษณะอ่อนหวานหรือบอบบาง
ข้อบกพร่อง : ลิ้นยื่นใ้ห้เห็นนอกปาก ตาเจ็บอักเสบ ขากรรไกรบนยื่นกว่าขากรรไกรล่าง (OVERSHOT) และปากเบี้ยว (WRY MOUTH) จมูกสีชมพูหรือสีน้ำตาล (DUDLEY NOSE) น้ำหนักเกิน 14 ปอนด์


lovelyfriends2u.เพื่อนรักสัตว์เลี้ยง
ได้แนะนำ เรื่องของน้องหมา "สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง หน้ายู่" แล้วเป็นไงบ้างค่ะ ประวัติความเป็นมาไม่ธรรมดาเลยนะค่ะ เหมือนนิยายเชียว น่ารักมากเลยใช่ไหมค่ะ ส่วนลักษณะมาตรฐานสายพันธุ์ก่อนเลือกที่จะเป็นเจ้าของ ก็ดูให้ดีก่อนนะค่ะ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้ติดตาม

-

free counters